“เวลาคนเราอายุเพิ่มขึ้น เราก็อยากจะให้อายุของเราเป็นเพียงตัวเลขที่เดินไปข้างหน้า ในขณะที่ความสวยใสนั้นไม่เปลี่ยนไป ดังนั้นการใส่ใจทั้งในเรื่องของ Anti-ageing และ Aesthetic สองศาสตร์ควบคู่กัน ก็จะทำให้เราแข็งแรงและอ่อนวัยได้ตราบนานเท่านาน..”
เมื่อการเพิ่มขึ้นของอายุเป็นสิ่งที่มนุษย์เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และสิ่งที่มาควบคู่กับอายุที่เพิ่มขึ้นก็คือความเสื่อมหรือความชรา ( Aging ) ซึ่งเป็นสิ่งไม่พึงปรารถนาของคนทุกคน เพราะความชราเป็นการบ่งบอกถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลงของระบบการทำงานของอวัยวะและต่อมต่างๆ ที่อยู่ภายในร่างกาย เมื่อระบบอวัยวะและต่อมมีประสิทธิภาพการทำงานลดลงย่อมส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยไม่สบาย ผิวเสื่อมสภาพ ริ้วรอย ความหมอง ความไม่สดใส จึงเกิดขึ้นตามมาได้โดยง่าย
แล้วที่สำคัญ AGING เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ขาด มีแต่จะเพิ่มปัญหาตามอายุที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ ด้วยวิวัฒนาการของเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัยในปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาศาสตร์ที่ทำการรักษาขึ้นมาจนได้ ซึ่งก็คือ เวชศาสตร์ชะลอวัย ( Anti-Aging Medicine ) ช่วยลดความเสื่อมที่เกิดขึ้นกับระบบการทำงานของร่างกาย
มีผลทำให้ Aging ที่เกิดขึ้นกับร่างกายและผิวพรรณลดลงหรือเกิดขึ้นช้าลงได้ คงจะดีมากเลย ถ้าเรารู้จักวิธีการเอาศาสตร์ Anti-Aging นี้มาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน สร้างเป็น Mindset ใหม่ แนวการเดินทางสู่ความสวยแบบยั่งยืนกัน เพราะจะทำให้ความอ่อนเยาว์นั้นอยู่กับเราไปได้นานตามใจปรารถนาเลยค่ะ
และเพื่อที่ทุกคนจะจดจำได้ง่าย ที่จะเอาเอาหลักการของเวชศาสตร์ชะลอวัยไปประยุกต์ใช้กับความสวยของตัวเองได้ครบทุกมิติ จนกลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่สามารถยืดอายุความสวยให้อยู่ยั้งยืนยง คุณหมออุ๋ม แห่ง THERA CLINIC จึงแบ่งแนวคิดในการสร้าง Beauty Journey ของเราจาก 100% ออกมาเป็นสูตร40-30-30 นั่นเอง
หลักการของ Anti-aging (เวชศาสตร์ชะลอวัย) ก็คือ ปลูกฝังนิสัยการดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง ทั้งเรื่องของการรับประทานอาหาร การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งจะต้องเริ่มฝึกตั้งแต่ตอนที่อายุยังน้อยๆ ควรปฏิบัติให้เป็นกิจวัตรอยู่ตลอดเวลา และใส่ใจลงลึกไปในรายละเอียดสักหน่อย เช่น “เลือกทาน” อาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ลด ละ เลิก อาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ และ “ทานให้พออิ่ม” เพราะการรับประทานอาหารมากเกินไปในแต่ละมื้อ ก่อให้เกิดของเสียจากการเผาผลาญในร่างกายที่เรียกว่า “อนุมูลอิสระ”
ซึ่งจะออกมากเกินความจำเป็น เจ้าตัวนี้ล่ะที่มีผลให้เกิดความเสื่อมโทรมของอวัยวะต่างๆภายในร่างกาย ทำให้ริ้วรอย ความหมองคล้ำเกิดขึ้นง่ายโดยไม่รู้ตัวเลย รวมถึงไม่ทานอาหารที่หวาน เค็มจัด หรือ มีไขมันจำพวก LDL มากเกินไป เพราะจะทำให้น้ำตาลในเลือดหรือ คอเลสเตอรอลในเส้นเลือดสูง ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้มีความเสี่ยงเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือหลอดเลือดสมองตีบ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน รวมไปถึงการดื่มน้ำสะอาดมากๆ ในปริมาณที่สมดุลต่อร่างกาย (นำน้ำหนักตัวเราเองคูณด้วย 43.5 ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือปริมาณน้ำที่เราควรดื่มในแต่ละวัน (ลิตร)) จะทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ชุ่มชื้น และไม่เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
บำรุงผิวอย่างเหมาะสมกับปัญหาผิว รวมถึงพก “ครีมกันแดด SPF 40+” เป็นไอเทมติดตัวอย่าหมางเมินครีมกันแดดเหนียวๆ ที่หลายคนขอบายเพราะไม่ชอบเอาซะเลย แต่ครีมกันแดดเป็นตัวช่วยที่ดีเยี่ยมสำหรับคนที่อยากชะลอวัย เพราะมีงานวิจัยต่างๆ ค้นพบว่าสารรังสียูวีจากแสงแดดที่เราต้องเผชิญในทุกๆวัน เป็นสาเหตุทำให้ผิวพรรณของเรามีความกร้าน ผิวแห้งได้ง่าย และนำไปสู่การเกิดริ้วรอยก่อนวัย
และอีกเรื่องที่สำคัญ คือต้องพยายามดูแลสภาพจิตใจให้ ‘ไม่เครียด’ เพราะเมื่อคนเราเผชิญกับสิ่งเร้าที่ทำให้เกิดความเครียด ร่างกายจะหลั่งสารเคมีและฮอร์โมนที่จะกระตุ้นให้เกิดอาการ ความคิด หรือพฤติกรรมที่เป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียดนั้น เช่น เกิดสิว ผื่น ผิวหนังอักเสบ (Eczema) สะเก็ดเงิน และผมร่วงศีรษะล้านถาวรได้
เพราะว่ามันไม่พอก็เลยต้องขอเสริมสักหน่อย...
สิ่งแรกเลยที่คุณหมออุ๋มแนะนำให้เสริมจากการใช้ชีวิตปกติของเรา ก็คือ เสริมการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเข้าไปเป็นกิจวัตรประจำวัน ซึ่งการออกกำลังกายนั้นจะช่วยกู้ร่างกายเพลียๆ ให้สดชื่นขึ้นมา แถมยังมีหุ่นดีๆเอาไว้อวดเพื่อน ซึ่งเราสามารถเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะกับวัยและความถนัด ตามสถานที่ต่างๆที่สะดวกได้ เช่น การเล่นโยคะสำหรับคุณแม่บ้านยุคใหม่ การวิ่งในสวนสาธารณะใกล้ที่ทำงาน การว่ายน้ำในสระว่ายน้ำคอนโด การขี่จักรยานชมเมือง การเวท หรือการเข้าคลาสตามฟิตเนส ร่างกายที่มีความแข็งแรง ความสดใสจากภายในก็จะออกมาสู่ภายนอกเองแบบธรรมชาติ ซึ่งการออกกำลังกายที่ทำให้เราดูอ่อนเยาว์นั้น ต้องออกแบบต่อเนื่องใช้เวลา 20-60 นาที เพื่อให้ร่างกายได้มีการใช้ออกซิเจนและเลือดสูบฉีดไปเลี้ยงตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น ทำให้ผิวได้รับออกซิเจนได้ในปริมาณที่สูงขึ้น ช่วยให้การเสื่อมสภาพ หรือการคงตัวของผิวได้ยาวนานขึ้นนั่นเอง
จากนั้นก็เติมวิตามินและแร่ธาตุด้วยอาหารเสริมสักหน่อย เพราะในแต่ละมื้อของเราในชีวิตปกตินั้น มักจะมีความเร่งรีบในทุกวัน คนเราจึงเลือกที่จะทานอะไรก็ได้ แค่อิ่ม อร่อย โดยไม่คำนึงถึงคุณค่าของอาหารที่เราทานเข้าไปและผลกระทบต่อสุขภาพของตนเอง ยิ่งนานวัน กลายเป็นพฤติกรรมการรับประทานที่เราเริ่มคุ้นเคย มันอาจจะส่งผลให้เจ็บป่วยในอนาคตได้นะคะ อาหารที่เราทานด้วยความรีบเร่งโดยลืมคำนวนคุณประโยชน์นั้น ยังไงก็ให้สารอาหารและวิตามินไม่เพียงพอกับที่ร่างกายจะเอาไปใช้งานได้ มีผลให้โครงสร้างผิวพรรณของเราไม่แข็งแรง เกิดฝ้า กระ ริ้วรอย ความหม่นหมองได้ง่าย ยิ่งหากว่ามีปัจจัยภายนอกมากระตุ้นบ่อยๆแล้วด้วย ใช้เวลาฟื้นฟูกันนานเลยล่ะค่ะ
ถ้าไม่รู้จะเริ่มทานตัวอะไรก่อนดี ให้เลือกอาหารเสริมที่ช่วยให้การชะลอวัยได้ผลดีที่สุดเลยค่ะ จากการแนะนำของคุณหมออุ๋มก็คือ Astaxanthin ซึ่งเป็นอาหารเสริมเพื่อบำรุงผิวให้สวย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่สุดในโลกปัจจุบัน ซึ่งมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่า >> วิตามิน ซี 6,000 เท่า >> CoQ10 800 เท่า >> วิตามิน อี 550 เท่า >> Green tea catechins 550 เท่า >> Alpha lipoic acid 75 เท่า >> เบต้า แคโรทีน 40 เท่า >> สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 17 เท่าเพียงรับประทานทุกวันต่อเนื่องสัก 1 เดือน รับรองได้ว่าสังเกตุเห็นการเปลี่ยนแปลงจนรู้สึกได้แน่นอนค่ะ
และเคล็ดลับอีกอย่างที่สำคัญใน 30% นี้ก็คือ การออกไปเที่ยวพักผ่อนบ้างค่ะ เพื่อชาร์จแบตให้ตัวเอง ซึ่งจากการศึกษาของ Harvard Medical School พบว่า มนุษย์ทำงานกว่า 80% รู้สึกเครียด โดย 92% ทำงาน 40 ชม.ต่อสัปดาห์ และกว่า 57% ไม่ได้ใช้วันลาหยุดพักผ่อนจนสิ้นปี ชี้ให้เห็นว่า เมื่อสมองของคนเราได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ จะช่วยให้คนเราสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ และจดจำสิ่งต่างๆ ได้เร็วขึ้น ลดความเครียด และทำให้ใบหน้าผ่องใส ตาเป็นประกาย มีชีวิตชีวาอีกด้วยนะคะ
สูตรลับของคุณหมออุ๋มก็คือ การให้ความสำคัญกับ Aesthetic (ศาสตร์ความงาม) นั่นเอง อายุที่เพิ่มมากขึ้น ปัจจัยสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกอาจกระตุ้น Aging ผิวพรรณของเราให้มีเหตุเกิดความเสื่อมได้ง่ายและเร็วมากขึ้น การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านความงามต่างๆมาเป็นตัวช่วยรักษาสภาพผิว ฟื้นฟูและเติมเต็มความงามอย่างทันท่วงที จึงเป็นวิธีที่จะสร้างความสวยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งเสริมบุคลิกภาพให้น่ามอง เสริมความมั่นใจในการทำงานและใช้ชีวิต ความสุขจึงเกิดขึ้นได้ในทุกวัน ตั้งแต่การทำ
✅ Treatment ปรนนิบัติผ่อนคลายผิวหน้า จากความเหนื่อยล้าและมลพิษในเมือง
✅ การวิเคราะห์ผิวและแก้ปัญหาสิว รอยแดง รอยดำ รูขุมขน ให้ตรงจุดด้วยการทำเลเซอร์หน้าใส
✅ การฉีดสารต่างๆบนใบหน้า เพื่อเติมสิ่งที่ขาดและลดสิ่งที่เกิน ด้วยเทคนิคพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ อัลเทอร่า X-Beauty
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับกับเคล็ดลับ40-30-30 ของคุณหมออุ๋ม ที่จะพาทุกคนออกเดินทางท่องโลกด้วยความอ่อนเยาว์ที่ยั่งยืน เพียงประยุกต์ใช้ร่วมกับเวชศาสตร์การชะลอวัย การเดินทางด้วยสูตรนี้รับรองว่า สวยอ่อนเยาว์ได้ตลอดทางของชีวิตแน่นอนค่ะ
